อาหารเสริมบำรุงดวงตา ไวตาเนเจอร์พลัส Vitanature+ ลูทีนและซีแซนทิน สารสกัดดอกดาวเรือง ผสมสารสกัดบิลเบอร์รี 7 กระปุก

เขียนรีวิว
ราคาปรกติ: ฿4,130
฿1,990
ประหยัด: ฿2,140 (52%)
Save 52%
Price in points: 1990 point
68650885
In stock
+
Buy now with 1-click

รายละเอียด

ผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร ไวตาเนเจอร์พลัส ลูทีนและซีแซนทิน สารสกัดดอกดาวเรือง ผสมสารสกัดบิลเบอร์รี (Vitanature+ Lutein and Zeaxanthin form Marigold Extract with Bilberry) อาหารเสริม ช่วยฟื้นฟูและบำรุงดวงตา ส่วนประกอบสำคัญที่มุ่งเน้นในการช่วยบำรุงสุขภาพดวงตา ลดโอกาสการเกิดตาแห้ง ลดความเมื่อยล้าของตาจากการจ้องจอคอมพิวเตอร์และโทรศัพท์มือถือ ส่งเสริมการทำงานของระบบการไหลเวียนของเลือดในดวงตา ลดโอกาสการเกิดความเสี่ยงของโรคทางตา เช่น ลดความเสี่ยงของโรคจอประสาทตาเสื่อมและต้อกระจกคุณสมบัติสารสกัดสำคัญ1. ลูทีนและซีแซนทิน จากสารสกัดดอกดาวเรือง (Lutein and Zeaxanthin from Marigold extract) ให้ลูทีน 10 มก. และซีแซนทิน 2.5 มก.ลูทีน (Lutein) และซีแซนทิน (Zeaxanthin) คือ พฤกษเคมีกลุ่มแคโรตินอยด์ (Carotenoids) ที่ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ขึ้นเองได้ ร่างกายจะได้รับจากการรับประทานเข้าไปเท่านั้น ลูทีนและซีแซนทินเป็นสารประเภทแคโรตินอยด์ 2 ชนิดเท่านั้นที่พบในเนื้อเยื้อที่สำคัญก็คือ เลนส์แก้วตา (Lens) และจอประสาทตา (Mascula) ซึ่งหากร่างกายการขาดลูทีนหรือซีแซนทิน อาจทำให้ดวงตาและการมองเห็นของเรามี ปัญหาได้ กลไกที่สำคัญของลูทีนและซีแซนทิน ในการปกป้องดวงตาก็คือ การทำหน้าที่เป็นสารต่อต้านอนุมูลอิสระ (Anti-Oxidation) ที่เซลล์ดวงตาสร้างขึ้นมาจากการได้รับรังสียูวี (UV radiation) และแสงที่มองเห็นได้ (Visible light) อย่างมากและเป็นเวลานาน โดยช่วยปกป้องเซลล์รับแสง (Photoreceptor cell) ของดวงตา นอกจากนี้ ลูทีนและซีแซนทิน มีหน้าที่ในการกรองแสงที่มองเห็นได้ (Visible light) โดยเฉพาะแสงสีฟ้าซึ่งเป็นแสงที่มีพลังงานสูงและเหนี่ยวนำให้เกิดอนุมูลอิสระในเซลล์จอประสาทตาได้ โดยสารทั้ง 2 นี้จะทำหน้าที่กรองแสงเหล่านี้ก่อนที่แสงจะตกไปที่จอประสาทตา (Mascula) ส่งผลให้สามารถลดสภาวะความเครียดและการเกิดออกซิเดชัน (Oxidation) ต่อจอประสาทตาได้จากการศึกษาทางคลินิกของ University of Georgia ประเทศสหรัฐอเมริกา โดยอาสาสมัครกลุ่มหนึ่ง กิน ลูทีน 10 มก.และ ซีแซนทิน 2 มก. ต่อวัน เทียบกับกลุ่มยาหลอก เป็นเวลา 1 ปี จากผลการศึกษาพบว่า ในอาสาสมัครที่รับประทาน ลูทีนและซีแซนทิน มีระดับลูทีนและซีแซนทินในเลือดสูงขึ้น ความหนาแน่นของสารสีในจอประสาทตา (Mascular Pigment Optical Density: MPOD) สูงขึ้น ความสามารถในการแยกความต่างของสี (Chromatic contrast) ดีขึ้น เวลาที่ใช้ในการทดสอบ Photostress recovery time (PSRT) ดีขึ้น ซึ่งจากผลการศึกษานี้อาจสรุปได้ว่าการกิน ลูทีน 10 mg และ ซีแซนทิน 2 mg อาจช่วยให้การมองเห็นดีขึ้น และป้องกันการเสื่อมของดวงตาได้2. สารสกัดบิลเบอร์รี (Bilberry extract) สารสกัดจากบิลเบอร์รีที่อุดมไปด้วยพฤกษเคมีกลุ่มแอนโทไซยานิน (Anthocyanin) สารที่ช่วยต่อต้านอนุมูลอิสระจากการศึกวิจัยทางคลินิก ในอาสาสมัครกลุ่มหนึ่งได้รับสารสกัดจากบิลเบอร์รี 160 มก.ต่อวัน เทียบกับกลุ่มยาหลอก เป็นเวลา 4 สัปดาห์พบว่า กลุ่มที่ได้รับ สารสกัดจากบิลเบอร์รี พบการเพิ่มการหลังของน้ำตา ซึ่งสามารถช่วยลดอาการตาแห้งและอาการระคายเคืองได้อย่างมีประสิทธิภาพ3. วิตามินเอ (Vitamin A) เป็นวิตามินที่ไม่ละลายน้ำ มีบทบาทสำคัญต่อร่างกาย คือช่วยคงสภาพปกติของการมองเห็น ผิวหนังและเยื้อบุต่างๆ ช่วยในการทำงานของเมตาบอลิซึมของธาตุเหล็กให้เป็นปกติ และมีส่วนช่วยในการทำหน้าที่ตามปกติของระบบภูมิคุ้มกัน ร่างกายต้องการวิตามินเอ อย่างน้อยวันละ 800 ไมโครกรัม อาร์อี(μg RE) หรือภาวะการขาดวิตามินเอจะทำให้เกิดอาการตาบอดกลางคืน ตาแห้ง ผิวหนังแห้งแตก ผิวหนังเป็นตุ่มเล็กๆ รอบรูขุมขน และผมหลุดลอก ความต้านทานเชื้อโรคลดลง ส่งผลการเจริญเติบโตช้าในเด็ก โดยโปร-วิตามินเอ พบมากในผักผลไม้ที่มีสีเหลือง หรือสีส้ม เช่น มะละกอสุก มะม่วงสุก กล้วยสุก ฟักทอง และแครอท

รีวิว

ยังไม่มีรีวิว