โสมเกาหลี กิฟฟารีน ชนิดแคปซูล ราชาแห่งสมุนไพ โสมเป็นสมุนไพรที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบย่อยอาหาร และปอด

เขียนรีวิว
฿800
Price in points: 800 point
68460944
In stock
+
Buy now with 1-click

รายละเอียด

เรื่องน่ารู้เกี่ยวกับ “โสม”

โสม เป็นพืชสมุนไพรที่มีคนรู้จักมากที่สุดในโลก โสมถือเป็นราชาแห่งสมุนไพรทีเดียว และถูกนำมาใช้เป็นเวลานานกว่า 2000 ปี แล้ว

โสมมีอยู่ด้วยกัน สามสายพันธ์ คือ โสมเอเชีย เช่น จีน เกาหลี (Panax ginseng, C.A. Meyer) โสมอเมริกัน และแคนาดา (Panax quinquefolium) และโสมไซบีเรีย (Eleutherococcus senticosus) แต่อย่างหลังสุด ไม่ใช่โสมที่แท้จริงตามสายพันธ์ของโสม แต่ผู้เชี่ยวชาญเชื่อว่า มีระบบการทำงานคล้ายโสม โสมเอเชีย มีถิ่นกำเนิดในตอนเหนือของจีน เกาหลีและประเทศสหรัฐอเมริกา ในตำรายาแผนโบราณของจีน ระบุว่า โสมเป็นสมุนไพรที่ช่วยเสริมความแข็งแรงให้แก่ระบบย่อยอาหาร และปอด ช่วยทำให้จิตใจสงบและเพิ่มพละกำลังโดยส่วนรวม

สำหรับสรรพคุณทางวิชาการ ทางการแพทย์ที่น่าสนใจ รวมถึงความปลอดภัย มีดังนี้

1. ช่วยบำรุงหัวใจ โสมมีสรรพคุณในการช่วยบำรุงหัวใจโดยออกฤทธิคล้ายกับยาหัวใจ (digoxin) (อ้างอิงที่ 1)

2. ป้องกันโรคหัวใจขาดเลือด มีงานวิจัยในผู้ป่วยผ่าตัดหัวใจ (Cardiac surgery) มีการลองให้โสมและวัดทั้งการบีบตัว ดูผลของการขาดอ๊อกซิเจนด้วย (อ้างอิงที่ 2)
เสริมประสิทธิภาพทางเพศในชาย มีงานวิจัยในผู้ป่วยที่มีปัญหาองคชาติไม่แข็งตัว (Erectile dysfunction) 45 รายโดยรับประทานโสมเกาหลี ปริมาณ 900 ม.ก. 3 ครั้งต่อวันเป็นเวลาสองเดือน พบว่า สามารถเพิ่มประสิทธิภาพ ได้อย่างมีนัยสำคัญทางสถิติ ในการประเมินอย่างละเอียดทุกด้าน โสมจึงช่วยเสริมสมรรถภาพทางเพศในผู้ชาย (อ้างอิงที่ 3,4)

4. ลดและป้องกันมะเร็ง มีงานวิจัยของเกาหลีพบว่า การรับประทานโสมเกาหลี เป็นเวลานานสามารถลดอุบัติการณ์ของมะเร็งตับลงได้ด้วยการทำงานในด้านการต้าน อัลฟาทอกซินบี และยูรีเทน ซึ่งเป็นสาเหตุหนึ่งที่พบได้บ่อยพอควรใน มะเร็งตับ แต่ก็ยังไม่สามารถลดมะเร็งตับจากการดื่มสุราหรือสาเหตุอื่นได้ ในการวิจัยย้อนหลัง (Case control study) ซึ่งเป็นการวิจัยที่เหมาะสมในการหาความเสี่ยงและสารป้องกันการเกิดมะเร็งใน คน พบว่า ในคนที่ทานโสม มีอุบัติการณ์หรือโอกาสเป็นมะเร็งลดลงอย่างมาก มะเร็งที่ลดลงเมื่อทานโสมได้แก่ มะเร็งริมฝีปาก ช่องปากและคอ มะเร็งกล่องเสียง มะเร็งปอด มะเร็งหลอดอาหาร มะเร็งกระเพาะอาหาร มะเร็งตับ มะเร็งตับอ่อน มะเร็งรังไข่ และมะเร็งลำไส้ใหญ่ และมีนักวิทยาศาสตร์ชาวไต้หวันคือ ดร. Chang YS ก็ตีพิมพ์งานวิจัย แนะนำว่า ถึงเวลาแล้วที่โสมจะเป็นหนึ่งในทีมยารักษามะเร็งได้แล้ว (อ้างอิงที่ 5)

5. โสมมีสรรพคุณช่วยในเรื่องโรคปอดเรื้อรังชนิดที่พบบ่อยที่สุด คือโรคถุงลมโป่งพอง (COPD) โรคนี้พบได้บ่อยมาก เพราะเป็นผลงานของการสูบบุหรี่ติดต่อกันมาเป็นระยะเวลานาน งานวิจัยของโสมแบบการทดลองที่มีกลุ่มควบคุมชัดเจนได้ทำให้ผู้ป่วยโรคถุงลม โป่งพอง 92 คนแบ่งเป็นกลุ่มวิจัยที่ได้สารสกัด โสม วันละ 200 มก 49 คน และกลุ่มควบคุม ได้รับยาหลอก อีก 43 คน เป็นเวลา 3 เดือน พบว่า กลุ่มที่ได้รับโสม มีสมรรถภาพทางปอดดีขึ้นอย่างมากในทุกด้าน โดยที่ไม่มีผลข้างเคียง แต่กลุ่มที่ได้รับยาปลอมไม่มีผลดีขึ้น แต่อย่างใด ดังนั้นถ้าจะทานโสมในผู้ที่เป็นโรคนี้ก็น่าจะเกิดประโยชน์ เพราะมีงานวิจัยนี้สนับสนุนแล้ว (อ้างอิงที่ 6)

6. โสมมีความปลอดภัยสูง สามารถรับประทานต่อเนื่องได้เป็นระยะเวลายาวนาน ผลข้างเคียงมีน้อยมาก ที่พบได้มีแค่ อาการปวดศีรษะ และทางเดินอาหาร และรบกวนการนอนหลับเท่านั้น ยาที่ไม่ควรทานร่วมกับโสมก็มีเพียง สามสี่ตัว คือ ยาต้านการแข็งตัวของเลือดอย่างแรงชื่อ warfarin ยากระตุ้นหัวใจชื่อ digoxin ยาแก้เศร้าชื่อ Phenelzine และสุรา (อ้างอิงที่ 7) อาจมีการรบกวนประจำเดือน อาการเจ็บหน้าอกขณะมีประจำเดือน และก็มีรายงานถึงคนที่แพ้ได้อย่างรุนแรงได้โดยมีอาการทางผิวหนัง แต่ทั้งหมดนี้เกิดได้น้อยมาก (อ้างอิงที่ 8)

อย่างไรก็ตามมีข้อแนะนำว่า หากต้องการให้ปลอดภัยที่สุด ไม่ควรทานโสมกับยาแอสไพริน รวมถึงไม่ควรทานอย่างยิ่งในสตรีตั้งครรภ์และเด็ก ไม่ควรทานในคนที่ตับอักเสบคือมีเอนไซม์ของตับสูงแล้ว (ไวรัสตับอักเสบบีที่เป็นพาหะ ยังไม่มีเอนไซม์สูงจะทานได้) หรือตับอักเสบจนตัวเหลืองตาเหลืองหรือตับโต ดังนั้นถ้าเรามีโรคประจำตัวควรถามหมอของเราก่อนว่า จะทานได้ไหม และเนื่องจากโสมเป็นของร้อนบางคนทานแล้วก็หงุดหงิด ถ้าอยากจะทานให้อายุวัฒนะจริงๆ ก็ให้ทานร่วมกับใบบัวบก ซึ่งเป็นของเย็น จะดีที่สุด ซึ่งคนอายุยืนมาก ๆ ก็ทานโสมกับใบบัวบกเป็นประจำ

ส่วนประกอบสำคัญใน 1 แคปซูล
ผงรากโสม 500 มก.
วิธีรับประทาน
วันละ 1-2 แคปซูล ก่อนอาหาร

คำเตือน : อ่านคำเตือนในฉลากก่อนบริโภค ไม่มีผลในการป้องกันหรือรักษาโรค

รหัส 48010 ขนาด 30 แคปซูล
ราคา 800 บาท

รีวิว

ยังไม่มีรีวิว