COOCA32นิ้วS3G/S6GดิจิตอลHD+Android9GoogleAssistantสมาร์ทLANบิ้วอินWIFIดูNetflix,GooglePlay,Youtube+Bluetooth+Chromecast

COOCAAทีวีSmart TV สมาร์ท LED 4K UHDรุ่นCoocaaS6GมีDolbyVisionรับประกัน3ปีเต็มAndroidTV9.0ราคาเปิดตัว19,990บาท-Coocaa LED TV Android 10ความละเอียด 4K (3840×2160) รองรับ HDR10, Dolby Vision -พาเนล VA-สมาร์ททีวี Android 9.0-กำลังขับลำโพง 16WDesign – การออกแบบ
จุดแรกที่ขอพูดถึงคือดีไซน์ของตัวทีวี Coocaa S6G (รุ่นที่ผมได้มามีขนาด 55นิ้ว) เนื่องจากเป็นรุ่นที่ขยับขึ้นมาจากรุ่น S3C ทำให้วัสดุของตัวทีวีมีความแข็งแรง และดูพรีเมี่ยมกว่า อีกจุดที่แตกต่างคือรุ่นนี้ตัวทีวีจะมีสีเงินไม่เหมือนรุ่น S3C ที่เป็นพลาสติกสีดำเงา ตัวทีวีรวมขาตั้งกว้างประมาณ 1226x238x755 มม. (กว้าง x สูง x ลึก)
วัสดุตัวทีวีเป็นโลหะมีเงินทำให้ดูแข็งแรงและพรีเมี่ยมมากขึ้น
ตัวจอทีวีมีขอบที่บางมากเรียกว่าแทบจะไม่มีขอบเลย
มีโลโก้แบรนด์ Coocaa สีส้มสลักอยู่มุมขวาล่างทีวี
ดีไซน์ขาตั้งมีความใกล้เคียงกับทรงกิ่งไม้ แต่มีการออกแบบให้เป็นทรงพระจันทร์เสี้ยวทำให้เมื่อประกอบแล้ว ทีวีดูแนบชิดกับโต๊ะหรือชั้นวางทีวีมากขึ้นสวยไปอีกแบบ
ขาตั้งดีไซน์ทรงเสี้ยวพระจันทร์ ดูดีมีเอกลักษณ์
ขาตั้งใช้น็อตสองตัวในการไขประกอบแต่ละข้าง
ด้านข้างถือว่าบางพอสมควรเลยเมื่อเทียบกับทีวี 4K รุ่นอื่นๆ ในระดับราคาเดียวกัน
แผ่นหลังทีวีมีความเรียบง่ายไม่เน้นดีไซน์อะไรมากแต่แฝงลวดลายตามขอบโค้งเว้าของทีวีให้ดูมีมิติ
ดีไซน์รีโมทออกแบบได้ทันสมัยเป็นสีเงินที่มีสีดำเงาตัดคาด ปุ่มการใช้งานให้มาอย่างครบครัน ไม่ว่าจะเป็นปุ่มลัดเข้า Netflix, YouTube, Google Play Store, และปุ่มสั่งงานด้วยเสียงผ่าน Google Assistant ที่สังเกตได้ง่าย
Connectivity – ช่องต่อ
ตำแหน่งช่องเชื่อมต่อต่างๆ อยู่ด้านขวามือ (หันหน้าเข้าหลังทีวี)
1.HDMI In 3 ช่อง
2.Digital Audio Out (Optical) 1 ช่อง
3.USB 2 ช่อง (เป็น USB3.0 เพียง 1 ช่อง)
4.สายอากาศทีวีดิจิตอล 1 ช่อง
5.ช่องเสียบสาย LAN (รองรับ Wi-Fi)
6.ช่องต่อ AV In (ต้องใช้สายแปลงที่ให้มาในกล่อง)
7.รองรับ Bluetooth และ Chromecast Built-in
ช่องต่อพื้นฐานถือว่าให้มาครบถ้วนสามารถใช้งานได้ทันทีExtra – เพิ่มเติม
จุดที่น่าสนใจของ Coocaa S6G คงหนีไม่พ้นการเป็น Android TV เวอร์ชั่นใหม่สุดในตอนนี้อย่าง 9.0 ที่มีการเปลี่ยนแปลงหน้าตาอินเตอร์เฟสบางส่วนนิดหน่อย แต่จุดสำคัญหลักๆ คงเป็นความไหลลื่นในการใช้งานที่เวอร์ชั่น 9.0 นั้นกินทรัพยากรของตัวทีวีน้อยกว่าเวอร์ชั่น 8.0 ทำให้ไม่ค่อยพบเจออาการหน่วงหรือค้างซักเท่าไหร่
หน้าตาเมนูมีความคล้ายคลึงกับเวอร์ชั่น 8.0 แต่การทำงานนั้นเร็วกว่าเดิม
ลูกเล่นหลักของ Android TV ที่ช่วงหลังเริ่มได้รับความนิยมคือ Google Assistant ระบบรับคำสั่งเสียงโดยเราสามารถพูดค้นหาคลิปหรือหนังซีรีส์บน Netflix หรือแอปพลิเคชั่นอื่นๆ ที่นับวันยิ่งฉลาดมากขึ้นเรื่อยๆ อยากดูเรื่องอะไรเราพูดลงไป ถ้าค้นหาเจอก็จะแสดงขึ้นมาหรือเล่นได้ทันทีเลย (บอกไว้ก่อนเลยว่ารองรับการพูดผสมระหว่างภาษาไทยและอังกฤษได้นะ)
กดตรงรูปสัญลักษณ์ Google Assistant สั่งงานด้วยคำสั่งเสียง
ช่วงนี้อากาศกำลังหนาวเราลองเช็คพยากรณ์อากาศดูว่าต้องพกเสื้อกันหนาวออกจากบ้านหรือป่าว
จุดแตกต่างที่ Coocaa 55S6G ให้มาแต่ทีวี 4K รุ่นเริ่มต้นอื่นๆ ไม่มีก็คือการรองรับมาตรฐาน HDR สูงสุดอย่าง Dolby Vision ซึ่งพูดได้ว่าแทบจะหายากมากหรือแทบไม่มีเลยก็ว่าได้สำหรับทีวีที่อยู่ในเกณฑ์ราคา 19,990 บาท
บน Netflix มีหนังหรือซีรีส์ที่รองรับ Dolby Vsion ให้ดูมากมาย
แถมอีกอย่างสำหรับสิ่งที่ทำให้ทีวีรุ่นนี้ดูคุ้มค่ามากขึ้นมาอีกคือมี Chromecast Built in ให้มากับตัวทีวีแบบฟรีๆ ทำให้เราสามารถส่งภาพขึ้นไปบนทีวีได้อย่างง่ายมาก ไม่ว่าจะใช้กับแอปพลิเคชั่นอะไรก็ตาม เช่น TrueID, AISPlay, YouTube หรือว่า Netflix ก็ตาม
จากเดิมที่ผมต้องดูซีรีส์ Watchmen จากแอปพลิเคชั่น AIS Play บนมือถือ
ผมก็ส่งภาพขึ้นไปบนทีวีจอใหญ่ได้แบบสะดวกสบายมาก
แอปพลิเคชั่น YouTube ที่มีติดมากับตัวทีวีก็รองรับความละเอียดแบบ 4K เช่นกัน
สำหรับใครที่ใช้มือถือ iPhone หรืออุปกรณ์ Apple อยู่ก็ไม่ต้องเป็นห่วงไป ถึงแม้ในตอนนี้ Android TV ยังไม่รองรับ AirPlay 2 แต่ก็มีแอปพลิเคชั่นมาทดแทนให้ใช้งานแก้ขัดกันไปก่อนอย่าง AirScreen
AirPlay เกม Call of Duty Mobile ขึ้นไปเล่นบนจอใหญ่ๆ แบบนี้ผ่านแอปพลิเคชั่น AirScreen ได้เลยPicture – ภาพ
Coocaa 55S6G ตัวที่ผมได้มารีวิวจัดอยู่ใน Android TV ระดับเริ่มต้น ขนาดจอ 55” ถือเป็นขนาดที่ได้รับความนิยมมากที่สุดสำหรับคนที่เริ่มเล่นทีวีความละเอียด 4K รองรับ HDR ขั้นสูงสุดอย่าง Dolby Vision และตัวพาแนลจอเป็น VA ทำให้มุมมองด้านตรงนั้นสีสันสดใส หากนั่งด้านข้างสีสันก็ยังไม่ถดถอยลงไปมากนัก
ถึงแม้จะเป็นพาแนล VA แต่มุมมองด้านข้างสีสันยังสดอิ่ม
ขึ้นโชว์โลโก้ชัดๆ ว่ารองรับ Dolby Vision จริง
โหมดภาพจากโรงงานที่ Coocaa S6G ให้มาผมขอแนะนำให้ใช้โหมดภาพ Standard เนื่องจากโหมดอื่นๆ ให้ค่าความถูกต้องของสีนั้นคลาดเคลื่อนจากเกณฑ์มาตรฐานพอสมควร ทำให้โหมด Standard ที่มีค่าความถูกต้องของสีใกล้เคียงกับมาตรฐานมากสุด เป็นตัวเลือกที่ผมแนะนำเพราะสามารถใช้ดูคอนเทนต์ได้หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นดูทีวีดิตอล หรือซีรีส์ก็สามารถเลือกใช้ได้เลย
***การปรับโหมดภาพแบบละเอียด สามารถทำได้เฉพาะผ่านช่องทาง Input เช่น HDMI, AV In รวมถึง Digital TV เท่านั้น***
ในโหมด SDR ทำขอบเขตสีได้ถึง 96.7% ของ Rec.709
เนื่องจากไม่สามารถปรับโหมดภาพเบื้องลึกได้ อีกทั้งการตั้งค่าอุณภูมิสีเป็น Warm นั้นจะติดโทนอุ่นจนมากเกินไปเวลารับชมอาจจะทำให้รู้สึกแปลกตาได้ ผมจึงแนะนำให้ใช้เป็นโหมด Standrad จะทำให้อุณหภูมิสีเป็นโทนเย็นอยู่ที่ 9000K ถือว่าใช้งานได้จริงเลยครับ และการเป็นทีวีรุ่นเริ่มต้นตัวช่วยเรื่องภาพหรือชิปประมวลผลอาจจะไม่ส่งผลกับคุณภาพของภาพนัก แต่ถือว่าอยู่ในเกณฑ์ดีและใช้งานได้เลย
มีโหมดภาพให้เลือกใช้งานหลากหลาย
หลังจากใช้โหมด User ในการ Calibrate ทำให้สีสันและอุณภูมิของสีอยู่ในเกณฑ์ที่ใกล้เคียงกับมาตรฐานมากขึ้น ซึ่งทำ Peak Brig