iRig Mic Lav ไมโครโฟนต่อกับ I Phone รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี

iRig Mic Lav เป็นไมโครโฟนลาวาเลียร์ (Lavalier Microphone)
หรือถ้าเรียกให้รู้จักกันสั้น ๆ คือไมโครโฟนขนาดเล็กไว้หนีบกับปกเสื้อ
หนีบคอเสื้อ หนีบกับอื่น ๆ ซ่อนไว้ไม่ให้เห็น โดย iRig Mic Lav
เป็นไมโครโฟนลาวาเลียร์แบบมีสายสำหรับใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือ
ความยาวสายวัดแบบปลายถึงปลายอยู่ที่ 170 เซนติเมตร
(ระยะใช้งานจริงอยู่ราว 150 เซนติเมตร)
โดยในกล่องก็จะมีปลอกฟองน้ำสำหรับใส่ไมโครโฟน ตัวหนีบ
และกล่องใส่ไมโครโฟนสำหรับพกพา ซึ่งอันหลังต้องบอกว่า iRig
ทำกล่องมาดีมากจริง ๆ



ก่อนจะไปไกลกว่านี้อยากให้ผู้อ่านรู้จักกับ ไมโครโฟนลาวาเลียร์
(Lavalier Microphone) กันเล็กน้อย
ซึ่งปกติในแวดวงทีวีที่เราเห็นตามรายการข่าวก็ดี
รายการทอร์คโชค์ก็ดีก็จะใช้ไมโครโฟนประเภทนี้แบบไร้สายมีตัวรับสัญญาณติดอยู่กับกล้องหรือกล่องควบคุมเสียง
และมีตัวไมโครโฟนพร้อมตัวส่งสัญญาณติดอยู่กับผู้ดำเนินรายการ
ซึ่งไมโครโฟนลาวาเลียร์แบบไร้สายรุ่นดี ๆ
หน่อยก็จะมีราคาหมื่นกว่าบาทถึงสองหมื่นกว่าบาท
ส่วนแบบมีสายที่ราคาย่อมเยาว์ลงมาแรก ๆ
ก็มีเฉพาะใช้ร่วมกับกล้องใหญ่ แต่ในช่วง 2-3
ปีที่ผ่านมาก็เริ่มมีผู้ผลิตไมโครโฟนลาวาเลียร์มาเพื่อใช้งานร่วมกับโทรศัพท์มือถือ
ราคาของไมโครโฟนลาวาเลียร์ยี่ห้อยอดนิยมจะอยู่ในช่วงสองพันกว่าถึงสามพันกว่าบาท


สำหรับ iRig Mic Lav พอเราจัดการใส่ฟองน้ำเข้ากับหัวไมโครโฟน
ติดคลิปหนีบ เท่านี้ก็พร้อมใช้งานแล้วครับ
โดยปลายสายอีกด้านนำมาเสียบกับช่อง 3.5 มม. ของ iPhone หรือ Android
ได้เลย
ส่วนว่าเราจะใช้กับแอพบันทึกเสียงหรือบันทึกวิดีโอก็ตามแต่สะดวก


โดยการทดสอบบันทึกเสียงของ iRig Mic Lav
เราทดสอบทั้งตอนอยู่ในห้องและไปอยู่บริเวณทางเท้าที่มีรถวิ่งไปมาเพื่อดูว่าเสียงที่ไมโครโฟนตัวนี้รับได้เป็นยังไง
เมื่อเทียบกับ Rode smartLav+
ที่เป็นไมโครโฟนลาวาเลียร์สำหรับต่อกับโทรศัพท์มือถือเจ้าตลาดในขณะนี้


การทดสอบภายในห้อง เราทำการทดสอบร่วมกับ Rode smartLav+ เพื่อดูว่า
iRig Mic Lav เมื่อเทียบกับเจ้าตลาดเป็นอย่างไร
จากที่ทดสอบประสิทธิภาพการรับเสียงตรงนี้แทบไม่ต่างกัน
การเก็บเสียงอยู่ในขั้นดี
โทนเสียงที่ไมโครโฟนแต่ละยี่ห้อทำได้ต่างกันนิดหน่อยแต่โดยรวมคือทดแทนกันได้ไม่มีปัญหา

ถัดมาเราพาทั้งคู่ไปทดสอบข้างถนนเพื่อดูว่ากรณีใช้งานแบบนี้จะเป็นยังไงบ้าง
หลังจากที่เราทดสอบกันเสร็จเรียบร้อยและออกมาเป็นวิดีโอทดสอบอย่างที่ทุกคนเห็น
เราพบว่าการตัดเสียบรบกวนภายนอกของ iRig Mic Lav สู้ Rode smartLav+
ไม่ได้จริง ๆ ถ้าดูจากในวิดีโอจะได้ยินเสียงรอบข้างจาก iRig Mic Lav
ค่อนข้างเยอะพอควร จุดนี้ยกให้ Rode smartLav+
จากการทดสอบข้างต้น
ถ้าเราต้องการเน้นใช้งานอยู่ในห้องเป็นหลักไม่ได้ออกมาข้างนอกสักเท่าไหร่
iRig Mic Lav ถือว่าช่วยเราได้ในราคาที่จ่ายถูกกว่า Rode smartLav+
ส่วนถ้าต้องใช้งานนอกบ้านและมีเสียงรอบข้างกวนเยอะแบบในวิดีโอก็ต้องตอบตามตรงว่า
Rode smartLav+ ตอบโจทย์กว่าในราคาที่จ่ายเพิ่มขึ้น
จุดที่เป็นไฮไลท์ของ iRig Mic Lav อีกอย่างคือเขาจะมีติ่งน้อย ๆ
แล้วก็มีช่องให้เราเสียบหูฟังเข้าได้ด้วย ตรงนี้ iRig
เขาก็คิดมาแล้วเพื่ออำนวยความสะดวก ซึ่งถ้าเป็นไมโครโฟนเปล่า ๆ
เวลาเราใช้บันทึกเสียงเสร็จเรียบร้อย
พอจะฟังเสียงก็ต้องถอดไมโครโฟนออกแล้วก็เสียบหูฟังสลับไปสลับมา
ซึ่งผมก็เคยอยู่ห้วงนี้มาแล้วเหมือนกัน
พอ iRig Mic Lav ทำได้แบบนี้ก็สะดวกขึ้นเยอะไม่ต้องถอดออกใส่เข้า
แถมด้วยว่า iRig Mic Lav ถ้าซื้ออันที่ 2
ก็สามารถใช้ร่วมกับอันแรกได้แบบ 2 ไมโครโฟนเลยด้วย
โดยที่ติ่งจะมีปุ่มปรับเพื่อใช้ 2 ไมโครโฟนพร้อมกัน จุดนี้คือดีมาก
เพราะ