iRig Mic Studio ไมโครโฟนใช้ได้ทั้งบน I Phone, Android และเครื่องคอมพิวเตอร์ รับประกันศูนย์ไทย 1 ปี

iRig Mic Studio เป็นไมโครโฟนที่ออกแบบมาให้ใช้ได้ทั้งบน iPhone,
Android และเครื่องคอมพิวเตอร์ ตามสเป็คที่ระบุไว้ iRig Mic Studio
มีดังนี้


- Professional studio microphone with large-diaphragm
capsule

- Ultra-compact size that’s easy to carry around

- High-quality 1” back electret condenser capsule

- 24-bit converter with 44.1/48Khz sampling rate

- Low-noise, high-definition preamp

- Integrated headphone output

- Multicolor LED status and level indicator

- Onboard gain control and headphone level control

- Comes with a full suite of IK apps

- Includes portable tripod tabletop stand

- Includes Lightning, Micro-USB OTG and USB cables



จากข้างต้นข้อดีเด่น ๆ คือขนาดไมโครโฟนคอนเดนเซอร์ 1 นิ้ว,
รองรับการบันทึก 24-bit converter with 44.1/48Khz ,
มีช่องสำหรับเสียบหูฟังสำหรับมอนิเตอร์เสียงที่ตัวไมโครโฟน,
มีปุ่มปรับระดับเสียงของไมโครโฟนและหูฟังบนตัวไมโครโฟน, มีสาย USB
มาให้ 3 แบบรองรับทั้งบน iOS, Android
และเครื่องคอมพิวเตอร์…สเป็คที่เห็นด้วยตาถือว่าเยี่ยมทีเดียว
สำหรับตัว iRig Mic Studio
ที่อยู่ในกล่องก็จะมีขาตั้งไมโครโฟนกันย่อม ๆ ให้มาด้วยในกล่อง
จุดนี้ถือว่า iRig ให้ของมาครบถ้วนมาก แกะกล่องมาก็ใช้งานได้เลย
ถ้าจะขาดผมว่าคงขาดแค่ Pop Filter เท่านั้น

ด้านการใช้งานของ iRig Mic Studio ผมทดสอบร่วมกับ iOS บน iPhone 6s
ร่วมกับแอพของแอปเปิ้ลที่เพิ่งออกมาหมาด ๆ คือ Apple Music Memos
ที่ทำมาเพื่อนักร้องนักดนตรีโดยเฉพาะ
ตัวแอพรองรับการต่อกับไมโครโฟนภายนอก
พอเสียบไมโครโฟนเข้าไปก็ตรวจจับอุปกรณ์ได้ทันที
ซึ่งสามารถตั้งค่าเพิ่มเติมในแอพได้ว่าจะให้ไมโครโฟนเป็นแบบไหน
และให้มอนิเตอร์เสียงได้หรือไม่ได้ด้วย นอกจากนี้ได้ลองใช้ร่วมกับแอพ
GarageBand บน iOS ก็ใช้งานได้ดีไม่มีปัญหาเช่นกัน



ประสิทธิภาพของไมโครโฟน iRig Mic Studio
ด้วยความที่เป็นไมโครโฟนสำหรับใช้งานในร่มเป็นหลัก
(ชื่อรุ่นก็บอกอยู่แล้วส่วนหนึ่งนะ)
คำว่าในร่มในที่นี้หมายถึงห้องที่เงียบหน่อย
เพราะไมโครโฟนตัวนี้จะดูดเสียงรอบข้างเข้ามาด้วย
ถ้ามีเสียงรบกวนจากภายนอกมากหน่อยก็เป็นได้ว่า iRig Mic Studio
มีแววจะเก็บเสียงดังกล่าวได้ด้วย
ตัวผมทดสอบ iRig Mic Studio ร่วมกับไมโครโฟนอื่น ๆ ดังนี้


- ไมโครโฟนของตัว iPhone 6s

- Rode – Video Mic Go (ติดอยู่กับกล้องที่ถ่ายวิดีโอ)

- Rode – RODELink Wireless Filmmaker Kit (ติดอยู่กับคอเสื้อ)

เมื่อรวมกับ iRig Mic Studio ด้วย เท่ากับเราทดสอบไมโครโฟน 4
ตัวด้วยกัน
น่าจะเป็นการทดสอบไมโครโฟนสำหรับใช้ร่วมกับโทรศัพท์มือถือที่จริงจังมากครั้งหนึ่งก็ว่าได้
โดยทั้งหมดเราบันทึกเสียงพร้อมกันในครั้งเดียวครับ
จากที่ได้ลองพูดข้อความเดียวกันประโยคเดียว
ก็ทำให้เห็นความแตกต่างได้ว่าไมโครโฟนแต่ละตัวที่เราทำมาทดสอบมีความต่างกันอย่างไรบ้าง
(ดูจากคลิปวิดีโอด้วยนะครับ) ตัวที่เสียงดังฟังชัดแต่แห้ง ๆ
หน่อยไม่เน้นมิติเสียงจะเป็น Rode – RODELink Wireless Filmmaker Kit
กับไมโครโฟนจาก iPhone 6s ส่วน Rode – Video Mic Go
รับเสียงด้านหน้าตรงได้ดี สุดท้าย iRig Mic Studio เสียงที่ได้จะนุ่ม
ๆ หน่อย และจะสังเกตได้ว่าเสียงที่ได้จาก iRig Mic Studio
จะเก็บรายละเอียดเสียงได้ดีที่สุด สังเกตจากตอนจังหวะหายใจ
จังหวะเปลี่ยนคำพูดของผมจะได้ยินเสียงช่วงจังหวะเหล่านั้นด้วย
เรียกว่าเก็บทุกเม็ดจริง ๆ ในจุดนี้ถ้าเป็นนักร้อง
นักดนตรีน่าจะชอบเจ้า iRig Mic Studio นะครับ
และอย่างที่บอกว่าในกล่องขา