Nine Scent Aromatic Silk Cocoon Oil

น้ำมันอโรมาผสมรังไหมสกัดธรรมชาติ และน้ำมันจากข้าวหอมมะลิ  ใช้ทาบำรุงผิวหน้าและผิวกาย  ช่วยบูทส์ผิวที่แห้งกร้านให้กลับมาชุ่มชื้นในทันที  ให้ผิวมีสุขภาพดี เนียนนุ่ม  ด้วยคุณค่าของโปรตีนไหมสีทองจากงานวิจัยพบว่า
ผลิตภัณฑ์ที่ผลิตมาจากรังไหมและเส้นไหม
ประกอบด้วย ผงไหมจากกาวไหม เรียกว่า ผงไหมซิริซิน (Siricin) ซึ่งมีมอยส์เจอไรเซอร์สูง ให้ความชุ่มชื้นถึง 300 เท่า
และ ผงไหมจากเส้นไหม เรียกว่า ผงไหมไฟโบรอิน (Fibroin) ในผงไหมนี้เองมีกรดอะมิโน 18 ชนิด คล้ายกับที่พบในร่างกายมนุษย์ จึงมีการนำโปรตีนรังไหมไปใช้ในด้านอาหารและการแพทย์ด้วย นอกจากนี้ยังพบว่า ผงไหมมีสารต้านอนุมูลอิสระที่ช่วยกำจัดจุลินทรีย์บางชนิด จึงช่วยลดอาการอักเสบ และปัญหาผิวหนังต่าง ๆ มีสารอาหารที่เป็นประโยชน์ที่ซึมซาบสู่ผิวมนุษย์ ช่วยบำรุงรักษา และช่วยให้แผลหายเร็วขึ้น

"ซิริซิน" Sirisin เป็นโปรตีนธรรมชาติที่ได้จากเส้นไหมหรือรังไหม สำหรับ "ซิริซิน" เป็นโปรตีนธรรมชาติที่ได้จากเส้นไหมหรือรังไหมที่ช่วยป้องกันผิวแห้ง ลดการเติบโตของเชื้อจุลินทรีย์บางชนิดและเป็นสารต้านอนุมูลอิสระ อีกทั้งกรดอะมิโน18 ชนิดซึ่งละลายน้ำได้ดี และมีคุณสมบัติพิเศษสามารถกักเก็บน้ำได้ดีจึงถูกนำมาใช้ประโยชน์ในหลายด้าน โดยเฉพาะนิยมนำมาใช้เป็นสารเพิ่มความชุ่มชื้นในผลิตภัณฑ์เครื่องสำอาง สิ่งทอ และทางการแพทย์ คุณประโยชน์ของสารสกัดจากรังไหม

สรรพคุณ
1.ช่วยกำจัดเซลล์ผิวที่เสื่อมสภาพได้อย่างมีประสิทธิภาพและช่วยยับยั้งการ เสื่อมสภาพของเซลล์ผิวที่ไม่แข็งแรง ลดการเกิดเซลล์สีผิวที่ผิดปกติที่เป็นสาเหตุของรอยด่างดำบนใบหน้า ทำให้ผิวพรรณเนียนนุ่ม กระชับ เปล่งปลั่ง

2.มีกรดอะมิโน 16-18 ชนิดที่ตรงกับ Natural Moisturizing Factor ที่พบตามธรรมชาติในร่างกายมนุษย์ ซึ่งมีสารต้านอนุมูลอิสระ รวมถึงสารประกอบของคอลลาเจน จึงเป็นการให้ความชุ่มชื้นตามกลไกธรรมชาติโดยการเติมกรดอะมิโนที่สูญเสียไป

3.มีสารช่วยดูดซับความชื้นในอากาศ สามารถซึมเข้าไปในผิวพรรณของเราได้ทันที

4.มีสารต่อต้านเชื้อจุลินทรีย์ที่ทำให้เกิดโรคผิวหนัง และช่วยลดการอักเสบของผิวพรรณ

5.มีคุณสมบัติปกป้องตามธรรมชาติ เพิ่มความสามารถเก็บกักความชุ่มชื้นของผิวพรรณ ทำให้ผิวพรรณดูเรียบเนียนขึ้น ลดริ้วรอยและไม่เกิดความหยาบกร้านSilkworm cocoons—usually smaller than ping-pong balls and dried to a tough texture--contain a key protein identified to be beneficial in skincare, sericin. This material is usually discarded as a waste during the process of silk production, but more and more cosmetic and medical efforts are exploring this underutilized protein.

Sericin contains 18 amino acids (most notably serine, aspartic acid, and glycine) and makes up about 20-30 percent of a cocoon’s weight. The sticky, gummy sericin encloses another protein called fibroin. Together, they make folds of porous sheets that create the walls of the cocoons.

Sericin is digestible, biocompatible and biodegradable and its ability to adhere and retain moisture has resulted in widespread interest in exploring its use for pharmaceutical and cosmetic purposes.

Potential medical and scientific uses of sericin, or silkworm cocoon material, include:
-for wound and regenerative healing (creating a film material to cover a wound and function as an “artificial skin” or bandage material)
-for surgical sutures
-for anti-oxidation, anti-bacterium, anti-coagulation materials
-as a biomaterial for contact lenses
-as a supplement to relieve constipation or potentially prevent diabetes (there are limited studies on this)
-as a hydrogel to deliver drugs or cells in tissue engineering and regenerative medicine
-to aid in bioimaging
-to aid in dispersing UV (ultraviolet) radiation, such as in sunblock