Set Body 234 Dii No.2+ BLC 30 แคปซูล + Dii No.3- BRK 30 แคปซูล + Dii No.4- BRN 30 แคปซูล

เขียนรีวิว
฿3,170
Price in points: 3170 point
66926614
In stock
+
Buy now with 1-click

รายละเอียด

BLOCK Before Heavy Meal ทานก่อนมื้อหนักเพื่อบล็อกแป้งและไขมัน วิธีทานที่แนะนำ: รับประทานครั้งละ 1-2 แคปซูลก่อนอาหารมื้อหนัก 30-60 นาที (สูงสุด 6 เม็ดต่อวัน) หลังรับประทานอาจรู้สึกอิ่มนาน หรือหากทานพร้อมแป้งหนักๆอาจเกิดอาการท้องอืดเนื่องจากแป้งที่ทานไม่ถูกย่อย ตามกลไกการออกฤทธิ์ของสารสกัด , หากลืมทานก่อนอาหาร สามารถทานหลังอาหารช้าสุดไม่เกิน 1 ชั่วโมง BLOCK เหมาะสำหรับ : 1. ผู้ที่อยู่ในช่วงควบคุมแคลลอรี่แต่เลี่ยงมื้ออาหารที่มีไขมันและแป้งสูงไม่ได้ 2. ผู้ที่ชื่นชอบอาหารประเภทคาร์โบไฮเดรตและไขมัน เช่น พิซซ่า หมูกระทะ ชานมไข่มุก ของหวาน 3. ผู้ที่ต้องการควบคุมระดับไขมันในเลือด และน้ำตาลในเลือด 4. ผู้ที่ต้องการลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจDii Body BRK After Breakfast ทานหลังมื้อเช้า  วิธีทานที่แนะนำ: รับประทานหลังอาหารเช้า ทุกวัน (สามารถย้ายไปมื้อแรกของวัน เวลาอื่น หลังอาหารได้ หากไม่ทานมื้อเช้า) 1 แคปซูลหลังอาหารเช้า สำหรับ BMI<25 และ 2 แคปซูลหลังอาหารเช้า สำหรับ BMI≥25  BREAK เหมาะสำหรับ : 1. ผู้ที่ต้องการควบคุมน้ำหนัก 2. ผู้ที่มีปัญหาของไขมันใต้ผิวหนังหรือเซลล์ลูไลท์ 3. ผู้ที่ต้องการเผาผลาญไขมันส่วนเกิน 4. ผู้ที่ต้องการให้น้ำหนักตัวคงที่ ป้องกันการกลับมาอ้วนใหม่ 5. ผู้ที่ออกกำลังกาย ต้องการกล้ามเนื้อคมชัดขึ้น 
ข้อมูลส่วนประกอบ 1. Conjugated linoleic acid จาก Safflower เป็นกรดไขมันที่มีฤทธิ์ยับยั้งการเปลี่ยนรูปร่างของเซลล์ไขมัน (adipocyte differentiation) ลดการแบ่งตัวของเซลล์ไขมัน ทำให้เซลล์ไขมันมีจำนวนและขนาดของเซลล์ลดลง และทำให้เซลล์ไขมันสลายตัว (induction of apoptosis) ในขณะที่ในเซลล์กล้ามเนื้อ (skeletal muscle) เกิดการนำเอากรดไขมันมาเผาผลาญเป็นพลังงานมากขึ้น (β-oxidation of fatty acid) (1) 2. สารกลุ่ม Polyphenols จากผลกุหลาบป่า มีฤทธิ์ยับยั้งการสะสมไขมันในเซลล์ไขมัน (lipid accumulation) ปัจจุบันพบว่าฤทธิ์ดังกล่าวมาจากสาร tiliroside ที่มีอยู่มากในผลกุหลาบป่า ซึ่งยังช่วยกระตุ้นการเผาผลาญผ่านกลไกกระตุ้นระบบประสาทอัตโนมัติ (autonomic nervous system) ให้นำไขมันมาใช้เป็นพลังงานได้ทั้งในช่วงพักและขณะออกกำลังกาย โดยใช้ไขมันในช่องท้อง (abdominal visceral fat) มากกว่าไขมันใต้ชั้นผิว (subcutaneous fat) จึงทำให้ดูไม่โทรม ไม่เหี่ยวและหย่อนคล้อย (2,3) 100mg (=2แคปซูล) 12 สัปดาห์ ลด BMI 26 ลง 0.5, Body fat ลด 1% 3. Quercetin จากหอมหัวใหญ่มีฤทธิ์ยับยั้งการแสดงออกของยีนส์ peroxisome proliferator-activated receptor γ (PPARγ) ส่งผลให้ลดการสะสมไขมันในร่างกาย การศึกษาผลของ Quercetin จากหอมหัวใหญ่จากประเทศญี่ปุ่นพบว่า ในผู้ที่มีน้ำหนักเกินมาตรฐานจะมีไขมันในช่องท้องแนวโน้มลดลงและเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของตับ เมื่อรับประทานอย่างต่อเนื่อง (4) quercetin 90 mg (=2แคปซูล) 12สัปดาห์ ลด BMI 24.8 ลง 0.1 ไม่sig แต่ ลด VFA ในคนที่HDL-C 40-74 mg/dl ได้ 5.8 cm2 4. สารกลุ่ม Flavonoids จากชะเอมเทศ ซึ่งปัจจุบันพบว่าคือ Glabridin มีฤทธิ์ยับยั้ง PPARγ เช่นเดียวกับ Quercitin จากหัวหอม จึงมีฤทธิ์ลดการสะสมไขมันในร่างกาย ผลการศึกษาวิจัยในสัตว์ทดลองสนับสนุนว่าช่วยยับยั้งการสะสมเซลล์ไขมันสีขาว (white adipose tissue) เมื่อได้รับอาหารที่มีไขมันสูง รวมถึงเพิ่มการนำไขมันมาเผาผลาญและลดการเกิดไขมันพอกตับได้ (Hepatic steatosis) (5,6) คำแนะนำเพิ่มเติม 1. มีข้อมูลว่า Rosehip extract ชะลอการดูดซึมยา paracetamol และลด peak concentration ลง 16% จึงไม่ควรทานพร้อมกัน 2. CLA มีฤทธิ์ต้านการเกาะกันของเกร็ดเลือด ควรหลีกเลี่ยงในผู้ที่ทานยาสลายลิ่มเลือด เช่น Aspirin 
หมายเลข อย. : 27-1-02761-5-0179Dii Body Fat Burner Pre Workout ทานก่อนออกกำลังกาย (30 แคปซูล) วิธีทานที่แนะนำ: รับประทานก่อนออกกำลังกาย 1 แคปซูล (น้ำหนัก < 70 kg) หรือ 2 แคปซูล (น้ำหนัก ≥ 70 kg ) หากทานตอนท้องว่าง ทานก่อนออกกำลังกายเพียง 15 นาที หากทานพร้อมอาหารอื่นๆ ให้ทานก่อนออกกำลังกาย 30-45 นาที ข้อมูลส่วนประกอบ 1. คาเฟอีนที่พบในชาเขียวช่วยกระตุ้นให้ระบบซิมพาเทติกของร่างกายทำงาน (sympathomimetic effect) คล้ายกับภาวะฉุกเฉินที่ร่างกายมีความจำเป็นต้องใช้พลังงาน เช่น ตื่นเต้น ต่อสู้ หรือขณะออกกำลังกาย ทำให้รู้สึกร่างกายรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า โดยเพิ่มการทำงานของ brown adipose tissue และกล้ามเนื้อ (skeletal muscles) ให้เพิ่มการเผาผลาญไขมัน (fat oxidation) ให้เกิดเป็นพลังงานความร้อน (thermogenesis) โดยไม่ทำให้เกิดอาการปวดหัวหรือใจสั่นเหมือนคาเฟอีนสังเคราะห์ เนื่องจากร่างกายจะค่อยๆดูดซึมได้ช้ากว่า ระดับความเข้มข้นในเลือดจึงไม่สูงจนกระตุ้นให้เกิดผลข้างเคียง นอกจากนี้ในชาเขียวยังมีสารสำคัญ คือ Epigallocatechin (EGCG) มีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระที่แรง ช่วยควบคุมระดับ Cholesterol และ LDL จึงลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคหลอดเลือดและหัวใจ ลดอัตราเสี่ยงต่อการเกิดโรคความดันโลหิตสูง และช่วยกระตุ้นการสร้างเซลล์ที่เกี่ยวข้องกับระบบภูมิต้านทานในร่างกาย (1,2,3) 2. Capsaicin จากพริก ออกฤทธิ์ผ่าน transient receptor potential vanilloid-1 (TRPV1) กระตุ้นให้เกิด การสร้างความร้อน (thermogenic effect) ใน brown adipose tissue และยับยั้งการสะสมไขมัน (inhibiting adipogenesis) โดยลดการกระตุ้น peroxisome proliferator-activated receptor (PPAR)-γ และ TRPV-1 (4,5) 3. Ginger Extract สารสกัดจากเหง้าขิง มีสารสำคัญคือ gingerol และ shogaol ที่ยับยั้ง PPARγ ส่งผลให้ยับยั้งการสะสมไขมัน และการศึกษาอาสาสมัครเกาหลีที่ทานสารสกัดจากเหง้าขิงต่อเนื่องนาน 12 สัปดาห์พบว่า สามารถลด BMI, Body fat ได้ (6) 4. L-carnitine L-tartate เป็น L-carnitine ใน form ที่ดูดซึมได้มากที่สุดและเร็วที่สุดในทางเดินอาหาร (7) เป็นสารที่ร่างกายสังเคราะห์ได้เองจากกรดอะมิโน L-lysine และ L-methionine ที่จำเป็นต่อกระบวนการสร้างพลังงานของไมโตรคอนเดรีย (mitochondrial β-oxidation) โดยมีหน้าที่ขนส่งเอากรดไขมัน (fatty acid) ไปเผาผลาญเป็นพลังงาน (8) 5. L-Arginine เป็นกรดอะมิโนจำเป็น (Essential Amino Acid) ที่ร่างกายไม่สามารถสร้างได้เอง ต้องการใช้ในการสร้างกล้ามเนื้อ และเซลล์ต่างๆของร่างกาย เป็นสารตั้งต้นในการสร้างไนตริคออกไซด์ (Nitric Oxide) ซึ่งมีผลทำให้หลอดเลือดขยายตัว (Vasodilate) ทำให้หัวใจและกล้ามเนื้อ ได้รับออกซิเจนเพิ่มขึ้น เพิ่มความสามารถในการออกกำลังกายได้นานขึ้น มีส่วนช่วยกระตุ้นการหลั่ง Growth Hormone ซึ่งจำเป็นในการเสริมสร้างกล้ามเนื้อให้เพิ่มขึ้นและแข็งแรงขึ้น (9,10) 6. Alpha lipoic acid สามารถต้านอนุมูลอิสระทั้งในเซลล์และนอกเซลล์ได้ดี ช่วยลดความเสื่อมของ เซลล์ เนื้อเยื่อ และอวัยวะต่างๆ ในร่างกาย ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของสารต้านอนุมูลอิสระตัวอื่นๆ เช่น Vitamin C, Vitamin E, Glutathione, Coenzyme Q-10 ให้กลับมาอยู่ในรูปที่ใช้งานได้อีก (Active form) (11) 7. Vitamin B3 ทำหน้าที่เป็นส่วนประกอบของเอนไซม์ที่สำคัญ 2 ชนิด คือ nicotinamide adenine dinucleotide (NAD) และnicotinamide adenine dinucleotide phosphate (NADP) ซึ่งเป็นเอนไซม์ที่พบในกระบวนการเผาผลาญสารอาหารในร่างกายให้เป็นพลังงาน และยังช่วยลดการอักเสบของเวลล์ไขมันได้ (12) 8. Black pepper extract เร่งอัตราการเผาผลาญพลังงาน (Metabolism) ของร่างกาย และ ยับยั้งการสะสมไขมัน (inhibiting adipogenesis) โดยลดการกระตุ้น peroxisome proliferator-activated receptor (PPAR)-γ เช่นเดียวกับสารสกัดจากพริก และมีข้อมูลการศึกษาในสัตว์สนับสนุนว่า สามารถเพิ่มการใช้ขณะออกกำลังกายจากการเผาผลาญคาร์โบไฮเดรตและไขมันร่วมกัน (13,14) 9. Coenzyme Q10 ร่างกายนำไปใช้สร้างเอนไซม์ Succinate dehydrogenase (SDH) ใช้ในการขนส่งอิเล็กตรอนในกระบวนการผลิตพลังงานของเซลล์ ทำให้มีพลังงานในรูปของ ATP (Adenosine Tri Phosphate) มากขึ้น ช่วยเพิ่มปริมาณออกซิเจนให้แก่เซลล์เนื้อเยื่อต่างๆ แต่พบมากสุดในเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ กล้ามเนื้อ หากขาด Coenzyme Q10 อาจทำให้การเคลื่อนไหวของร่างกายมีปัญหาได้ นอกจากนี้ยังเป็นสารต้านอนุมูลอิสระที่มีฤทธิ์แรง (Powerful Antioxidant) ป้องกันการเสื่อมของเซลล์โดยเฉพาะเซลล์กล้ามเนื้อหัวใจ (15) หมายเลข อย. : 27-1-02761-5-0180

รีวิว

ยังไม่มีรีวิว